RELX Infinity 2

พอตไฟฟ้า ระบบ Close System จากค่าย RELX ก็ได้อัพเกรดมาถึงซีรี่ย์ Inifnity 2 แล้ว

ทางค่ายได้ทำการอัพเกรดตัวเครื่องให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

ไม่ว่าจะเป็นการปรับระดับการจ่ายไฟ แต่ยังคงสามารถใช้งานกับหัวพอตรุ่นเดิมได้อยู่

และทำให้ความไวในการชาร์จแบตเตอรี่นั้นไวขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัวช่วยประหยัดเวลาได้ดี

ฟีเจอร์เฉพาะ RELX Infinity 2

สำหรับฟีเจอร์เฉพาะของ RELX Inifnity 2 ที่ทำการอัพเกรดเครื่องเพิ่มเติมขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้าจะมีอยู่ 2 หัวข้อหลักดังนี้

 

3 Level Power, 1 Simple Click

ถือได้เป็นการอัพเกรดตัวเครื่องที่ทำออกมาให้เป็นตัวเลือกสำหรับการใช้งานได้ดีเลย

นั่นก็คือ การปรับระดับไฟ การปรับระดับไฟจะทำได้ไม่ยาก ที่ด้านข้างของตัวเครื่องจะมีปุ่มกดมาให้ 1 ปุ่ม

เพียงกดแค่ครั้งเดียวตัวเครื่องจะแสดงสถานะเป็นไฟสีต่างๆขึ้นที่ด้านข้างของขีดที่แจ้งปริมาณแบตเตอรี่

เพื่อแจ้งว่าเราปรับระดับไฟไว้ที่เท่าไหร่ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ

1. Boost Mode จะแสดงสถานะไฟเป็นสีม่วง ซึ่งจะมีกำลังไฟอยู่ที่ 8W
   ด้วยโหมดนี้จะทำให้ได้รับควันที่เยอะขึ้นและรสชาติที่เข้มข้นขึ้นเมื่อเทียบกับโหมดสมูท
2. Smooth Mode จะแสดงสถานะไฟเป็นสีฟ้า ซึ่งจะมีกำลังไฟอยู่ที่ 6.5W
   โหมดนี้จะเป็นโหมดปกติทั่วไปที่ใช้ในเครื่องรุ่น Infinity Plus ที่ให้ความสมูธและรสชาติคงที่
3. ECO Mode จะแสดงสถานะไฟเป็นสีเขียว ซึ่งจะมีกำลังไฟอยู่ที่ 5.5W
   โหมดนี้จะช่วยทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ และน้ำยาได้มากถึง 25% เมื่อเทียบกับโหมดสมูธ

หมายเหตุ ต้องใส่หัวพอตอยู่เท่านั้นถึงจะสามารถปรับระดับไฟได้

Wait Less, Experience More

นอกจากยังสามารถปรับระดับการจ่ายไฟได้แล้ว ยังเพิ่มประสิทธิภาพของการชาร์จแบตเตอรี่มาด้วย

โดยปกติรุ่นก่อนๆ จะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้ถึง 80%

แต่สำหรับรุ่นนี้จะใช้เวลาเพียง 15 นาที เพื่อชาร์จให้ได้ถึง 80% ซึ่งจะประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก

และยังได้ทำการอัพเกรดปริมาณความจุของแบตเตอรี่จากรุ่นก่อนที่มีเพียง 380mAh มาเป็น 440 mAh

ซึ่งเพิ่มขึ้นมากจากเดิมมากถึง 14% เลยทีเดียว ทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นหากใช้กับโหมด Smooth Mode

และจะประหยัดไปกว่านั้นอีกหากใช้งานกับโหมด ECO Mode

RELX Infinity 2 ใช้กับหัวพอตอะไร

ตัวเครื่อง RELX Infinity 2 ยังคงรองรับการใช้กับพอตของรุ่นเดิมอยู่ และยังมีหัวพอตจากค่ายอื่น

ที่ได้ทำออกมารองรับสำหรับใช้งานกับพอตรุ่นนี้ เผื่อไว้เป็นทางเลือกเพิ่มเติม

· RELX

· Infinity

· Marbo

· Zero

· INFY

RELX Infinity 2 กับความแตกต่างรุ่นก่อนหน้า

เมื่อเทียบกับ 2 รุ่นที่ผ่านมา Infinity กับ Infinity Plus ถือได้ว่ารุ่นนี้มีการอัพเกรดให้ใช้งานได้มีประสิทธิถาพมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆเป็นอย่างมาก

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบตเตอรี่ที่ทำการเพิ่มปริมาณความจุมากขึ้น มาพร้อมกับการปรับระดับการจ่ายไฟเพื่อตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งานได้ดีขึ้น

วิธีเช็ค RELX Infinity 2 ของแท้หรือไม่

เราสามารถเช็คสินค้าได้ว่าเป็นของแท้หรือไม่ ง่ายๆเพียงแค่สแกน QR Code ที่ข้างกล่องเพื่อเข้าหน้าเว็บ หรือกดที่ลิ้งค์นี้ RELXNow Check Code

หลังจากนั้นทำการขูดเบาๆที่ใต้ QR Code จนส่วนที่ปิดรหัสหลุดทั้งหมด (อย่าใช้ของมีคมขูดเด็ดขาด) จะเห็นรหัสที่ใช้เช้คและนำไปกรอกที่ช่อง 14-digit Code เพื่อทำการเช็คโค้ด

คำแนะนำกับปัญหาที่พบบ่อยใน Relx Infinity

เป็นปัญหาหลักๆที่อาจจะพบได้บ้างในบางครั้งกับการดูดไม่ขึ้นของรุ่น RELX Inifnity โดยส่วนใหญ่แล้ว จะเกิดจากตัวผู้ใช้งานเองที่อาจจะลืม หรือ ไม่เคยใช้งานมาก่อน ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้

1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ดึงจุก พลาสติกที่ หัวน้ำยา ออกหมดแล้ว ทั้งด้านบน และ ด้านล่าง
2. หากทำตามข้อที่ 1 แล้วยังไม่ได้ให้ลองตรวจสอบที่ตัวเครื่องว่ามีแบตเตอรี่อยู่มั้ย หากไม่มีให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม
3. ถ้าหากทำตาม 2 ข้อ ข้างบนแล้วยังไม่ได้ให้ลองเปลี่ยนหัวน้ำยาดูก่อน ถ้าเปลี่ยนแล้วใช้ได้แสดงว่าเป็นที่ หัวน้ำยา
4. หากเปลี่ยนหัวน้ำยาแล้วยังดูดไม่ขึ้น อาจจะเป็นที่ตัวเครื่อง ให้ติดต่อทางร้านได้ที่ไลน์ LINE OA เพื่อเคลมเครื่องใหม่ ในกรณีซื้อไปไม่เกิน 7 วัน

โปรดระวังสินค้าปลอม ของแท้ต้องมีรหัส QR CODE เช็คที่ด้านข้างกล่องเท่านั้น !!!

ข้อมูลตัวเครื่อง RELX Infinity 2

• Material Pod : FEELM Ceramic Coil
• Dimension : 112mm. x 23mm. x 10mm. (ไม่รวมหัวพอต)
• Weight : 7g
• Output : 5.5W – 8W
• Battery : 440 mAh
• Time to charge : 15 Minutes for 80%
• Type Cable Charger : USB Type C

ของในกล่อง RELX Infinity 2

• x1 ตัวเครื่อง RELX Infinity 2
• x1 สายชาร์จ Type-C
• x1 User Manual

สรุป

สำหรับ RELX Infinity 2 มีความน่าใช้งานมากๆ แถมยังตอบโจยท์กับผู้ใช้หลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่สามารถปรับระดับการจ่ายไฟได้

อีกทั้งยังเพิ่มความจุของแบตเตอรี่ แถมยังสามารถชารจ์แบตได้ไวขึ้นกว่าเดิมอีก และยังคงใช้งานกับหัวพอตรุ่นเดิมได้

ว่าง่ายๆยังใช้งานง่ายเหมือนเดิม ใช้งานกับหัวพอตที่เราชอบ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นของรุ่นตัวมันเอง หรือหัวพอตที่รองรับกับตัวมันด้วย